ปรับวิธีคิด...ชีวิตก้าวไกล

สวัสดีครับคุณผู้อ่านที่ติดตามบทความจากสถาบัน Dr.fish มาโดยตลอด

ก่อนอื่นผมในฐานะผู้นำของ Dr.fish ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนมาตลอดนะครับ

สิ่งที่ผมและทีมงานตั้งใจ คือ ส่งงานที่มีคุณภาพ ส่งมอบข้อคิด แรงบันดาลใจ

ผ่านบทความในช่องทางต่าง ๆ ที่ผมทำมาตลอด 4 ปี

และอีกเช่นเคย กับบทความในวันนี้ เรื่องของ ทัศนคติ หรือ ความคิด

ซึ่งผมเชื่ออยู่เสมอว่า

 

"หากเรามีทัศนคติที่เป็นบวกสิ่งที่เราเจอโดยเฉพาะปัญหาย่อมน้อยลง

และสามารถผ่านพ้นปัญหาได้อย่างราบรื่นครับ"

 

จากที่ผมได้มีโอกาสไปบรรยายให้พนักงานตามองค์กรต่าง ๆ กว่า 260 องค์กร

ผมพบว่าหลายคนมีความคิดที่เป็นบวก แต่ในขาวย่อมมีดำ ซึ่งคนที่คิดในเชิงลบก็ย่อมมีเช่นกัน

ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ทว่า เราจะปรับเปลี่ยนคนที่คิดในเชิงลบอย่างไรให้เขามีมุมมองในเชิงบวก

นั่นคือ สิ่งที่ผมได้รับโจทย์ในการไปบรรยายทุก ๆ ครั้งครับ

ซึ่งผมเองมีแนวคิดแบบนี้ว่า เราไม่สามารถปรับเปลี่ยนความคิดหรือพฤติกรรมของเขาได้

เพราะคนนั้นต้องเป็นผู้ปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมด้วยตนเอง

แต่ผมสามารถให้มุมมองความคิดเพื่อทำให้เขาตระหนักเห็นถึงโอกาสในการก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุข

โดยใช้คำถามเชิงบวกแลกเปลี่ยนทัศนะความคิดกัน

ซึ่งในบทความนี้ผมขอเขียนในเชิงการตั้งคำถามและให้ท่านลองตอบจากความคิดแรกก่อนที่จะดูคำตอบของผมนะครับ นั่นคือ

1.ทำไมเราต้องพัฒนาตนเอง ?

อยากให้ลองคิดจากมุมมองของเราก่อนนะครับ ไม่มีผิดถูก มีแค่รู้ กับ ไม่รู้ เท่านั้น

และหากระดาษมาเขียนคำตอบไว้จากความคิดของเรา

ให้เวลาท่านเขียนคำตอบ 2 นาทีครับ ถ้าพร้อมแล้วเริ่มเลยครับ  (อย่าโกงกันนะครับ อิอิ)

เอาล่ะ ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านทุกท่านคงได้คำตอบกันเรียบร้อย มาดูคำตอบในมุมมองผมบ้างครับ

(1.1) เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา

การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพราะโลกนี้ไม่เคยหยุดนิ่ง เช่นเดียวกับเวลาที่มีแต่เดินไปข้างหน้า

หากวันนี้เราไม่พัฒนาตนเอง เราย่อมช้ากว่าคนอื่นที่เขามีการกระตุ้นตนเอง พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น หากตัวเราไม่อยากเป็นคนที่ช้า และก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้

จงอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ให้คิดว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ท้าทาย

และทำให้เรามีมุมมองที่แปลกใหม่ก้าวไกลครับ

(1.2) ต้นทุนในการใช้ชีวิตสูงขึ้น

ในยุคทุนนิยมที่ข้าวของแพงตลอดเวลา ถึงแม้ค่าแรงเราจะมีการปรับทุกปี แต่ข้าวของก็ไม่เคยปรับลดลงจนดีใจสักครั้งครับ

ดังนั้น การพัฒนาตนเอง ก็เพื่อทำให้เรายังมีรายได้มาหล่อเลี้ยงคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัวให้อยู่ดีกินดี

ซึ่งหากวันนี้เรามีเป้าหมายการทำงานที่ต้องการก้าวไปข้างหน้า จงอย่าหยุดพัฒนาตนเองในทุก ๆ  วัน

ซึ่งผมมีคำถามอีกหนึ่งข้อที่อยากจะถามคุณผู้อ่านทุกท่านนั่นคือ

2.การพัฒนาตนเอง ควรเริ่มต้นอย่างไร ?

เหมือนเดิมครับ หากระดาษขึ้นมาเขียน จุดเริ่มต้นของการพัฒนาตนเอง ผมให้เวลา 2 นาทีเหมือนเดิมครับ

เอาล่ะครับ ได้เวลาค้นหาการพัฒนาตนเองกันแล้ว ซึ่งจากมุมมองของผมนั้น ผมมองว่า

การพัฒนาตนเองควรเริ่มต้นจาก ความคิดของตัวเรา หรือ ทัศนคติที่เป็นบวกครับ

ทว่า หลายคนยังมีความคิดบวกแบบผิด ๆ บางคนก็คิดในมุมเดียว โลกสวย คิดเข้าข้างตนเอง หรือคิดบวก

แบบขาดสติ จนทำให้เกิดอันตรายต่อตนเองครับ

ซึ่งในมุมมองของผมนั้น การคิดบวก เป็นสิ่งที่ดี แต่ในด้านดีย่อมมีด้านไม่ดีปะปน

เพราะไม่มีอะไรในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบครับ การคิดบวก เป็นเพียงเครื่องมือที่ทำให้เรารู้ว่า

ควรใช้เมื่อเราเจอปัญหากับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ดึงสติกลับมาในการค้นหาทางออกของปัญหา

เพราะปัญหาไม่ได้มีทางออกเพียง 1 ทาง แต่อาจมีหลายๆ  ทางให้เราค้นหา ขอเพียงเราเชื่อมั่น ใจสู้ ใช้สติปัญญาค่อยๆ 

คิด วิเคราะห์ แยกแยก จากนั้นตัดสินใจลงมือทำแก้ไขปัญหา อย่างน้อยทางที่เราไปในครั้งแรก ๆ อาจไม่ใช่ทางออกของ

ปัญหา ทว่า ทุกทางที่เราไปไม่เคยมีคำว่าล้มเหลว แต่ทุกทางที่เราไป

กลับได้ประสบการณ์ต่อยอดจนทำให้เราเป็นคนที่เก่งขึ้น แกร่งขึ้นครับ

การคิดบวก หากเรารู้จักใช้ให้ถูกวิธี ชีวิตย่อมไปต่อเสมอครับ

และไม่ใช่แค่การคิดบวก เพียงด้านเดียว การคิดลบ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

 

การคิดลบ ต้องคิดในเชิงของการวางแผน ป้องกัน คาดการณ์กับอนาคต

โดยใช้อดีตที่เคยผิดพลาดนำมาเป็นเครื่องเตือนความคิดให้ระมัดระวังกับสิ่งที่กำลังลงมือทำ

 

เพราะความคิด หรือ ทัศนคติ ควรคิดให้รอบด้าน มองให้ดี เปิดใจรับฟังความคิดของคนอื่นเพื่อการต่อยอด

และใช้ประสบการณ์สอนใจเราอยู่เสมอ ผมเชื่อว่า คนทำงานหากอยากประสบความสำเร็จควรคำนึง ถึง 2 สิ่งในใจ นั่นคือ

(2.1) ความผิดพลาด

หากทำงานผิดพลาดไปแล้ว ไม่ต้องเสียใจ หรือ มัวแต่คิดถึงสิ่งที่ผิดพลาดในใจตลอดเวลา

เพราะความผิดพลาดเหล่านั้นเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้แล้ว เดินหน้าต่อไปครับ แต่ระหว่างทางควรหาทางแก้ไขปรับปรุง

ให้งานที่กำลังเดินไปข้างไม่มีความผิดพลาดในเรื่องเดิม ๆ ครับ แบบนี้เป็นการเรียนรู้ความผิดพลาดที่ทำให้เราไปต่อได้เสมอ

(2.2) สร้างมาตรฐาน

หากการทำงานของเราราบรื่น ผมเชื่อว่าคน ๆ นั้นย่อมต้องวางแผนได้ดีทีเดียว และไม่ประมาทกับสิ่งที่จะทำ

ซึ่งเมื่อเราลดความผิดพลาดในงานได้ เราย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จก้าวหน้าแบบติดจรวดแน่นอน

แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือ การติดกรอบกับความคิดเดิม ๆ ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไป สิ่งที่เคยทำสำเร็จ

อาจไม่สามารถการันตีความสำเร็จนั้นได้อีกก็ย่อมได้ครับ ดังนั้น สร้างแผนรองรับกับสิ่งใหม่ๆ  ไว้บ้าง

ทุกครั้งที่ทำงานสำเร็จ จงมอง หรือ พัฒนางานนั้นให้ดีขึ้นไปอีกก้าว

และสร้างมาตรฐานให้ฐานแข็งแรงที่สุดเพื่อการต่อยอดที่สูงขึ้นในอนาคตครับ

 

การปรับความคิด ไม่ใช่เรื่องยาก  แต่เรื่องยาก คือ การที่เรารู้แล้วไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง

ซึ่งหากวันนี้เราเข้าใจโจทย์ชีวิตของการพัฒนาตนเอง ซึ่ง ยิ่งพัฒนาตนเอง ตัวเรานั่นล่ะครับที่ยิ่งได้

ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งประสบการณ์ ได้ทั้งคุณค่าที่เรารู้อยู่แก่ใจ สู้ ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้คนทำงาน

ที่คิดจะก้าวไปข้างหน้า ผมเชื่อว่าทุกท่านทำได้แน่นอนครับ

 

เชื่อผมเถอะ ++

 

ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ

1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@ 

(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ

 2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish

 

ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ

1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน

2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ

 

คิดบวก คิดถึง Dr.fish

เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ

วิทยากร นักคิด นักเขียน 

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 713,511