8 เหตุผลที่คนขาดแรงจูงใจในการทำงาน

ขึ้นชื่อว่ามนุษย์เงินเดือน...งานก็หนัก เงินเดือนก็น้อย คงเป็นประโยคยอดฮิตของใครหลาย ๆ คน

ตอนผมยังทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น ก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกันครับ

แต่คิด ๆ ไปถ้าเรามองประโยชน์ของการทำงานเราจะพบว่า มากมายมหาศาลครับ

ยิ่งทำงานหนัก ทำงานเยอะเท่าไหร่ ประสบการณ์ + ความเก่งของเราก็จะเพิ่มมากขึ้น

คราวนี้เราอยากจะหาความท้าทายใหม่ ๆ ก็ไม่ยากแล้วครับ

แต่ผมเชื่อว่า ในฐานะผู้นำขององค์กร หรือถ้าเราเป็นหัวหน้างานที่ดี เรานั้นคงไม่อยาก

ให้ลูกทีมเราต้องมีอันพลัดพรากจากกัน ใช่หรือไม่ครับ เพราะการที่ต้องพัฒนาคนนั้น

ต้องอาศัยเวลา กว่าเขาจะทำงานได้ดี และมีประสิทธิภาพ ก็เล่นเอาหัวหน้างานเหนื่อยไปตาม ๆ กัน

 

สิ่งสำคัญ การที่เป็นหัวหน้างาน ต้องรู้จักสร้างแรงจูงใจที่ดีให้เกิดขึ้นกับน้อง ๆ ของเราครับ

เพื่อให้การทำงานราบรื่น ลูกน้องอยากทำงานถวายหัวให้กับเรา 

ดังนั้น เรามาดูกันครับว่า เหตุผลอะไรบ้างที่ลูกน้องขาดแรงจูงใจในการทำงานกัน

 

1.ไม่มีอิสระทางความคิด

ไม่ปล่อยให้ลูกน้องเสนอไอเดียในเรื่องการทำงาน และปิดกั้นความคิดของเขา และยิ่งตัวเราที่เป็นหัวหน้า

ออกแต่คำสั่ง อีกทั้งยังมีอีโก้ในความคิดของตนเอง ผมเชื่อว่าคนเก่ง ๆ ก็ไม่อยากทำงานด้วยแน่นอนครับ

และถ้าคนเก่ง ๆ ไม่อยู่แล้ว เหลือแต่คนเช้าชามเย็นชาม ก็ตัวใครตัวมันนะครับ

 

2.ขาดเป้าหมาย

ไม่มีเป้าหมายในการทำงาน ทำงานไปวัน ๆ ซึ่งหัวหน้างานต้องรู้จักกระตุ้นต่อมเต็มใจให้ลูกน้อง

รู้จักสร้างพลังงานในการทำงาน อาจใช้กิจกรรม Morning Talk ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อสร้างเป้าหมาย

การทำงานร่วมกัน หรือกำหนดแนวทางการทำงานในแผนกร่วมกัน ทำให้ลูกน้องมีส่วนร่วมอยู่เสมอครับ

 

3.ขาดพันธกิจที่ชัดเจน

ลูกน้องไม่ทราบถึงความเติบโตในการทำงานของตัวเอง หรือไม่รู้ว่าองค์กรมีทิศทางการเติบโตเป็นบวก

หรือลบ ก็ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในชีวิต...ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นหลาย ๆ องค์กร ขาด Vision Mission

ขององค์กรที่ดี เพราะเรื่องเหล่านี้มีผลต่อค่าตอบแทนซึ่งคนทุกคนต้องการเงินเดือนสูง ๆ สวัสดิการดี ๆ

ก็อาจให้เกิดการออกหาสิ่งใหม่ ๆ ภายนอกได้ครับ

 

4.ไม่รู้ถึงความคาดหวังในตัวเอง

บางครั้งการที่ทำงานไปวัน ๆ โดยที่องค์กรก็จะมีค่า KPI ในการวัดผลงาน 

แต่บางครั้งเขาไม่รู้หรอกครับว่า ค่า KPI ต่าง ๆ ที่วัดเขานั้นวัดเรื่องอะไร อีกทั้งขาดการสื่อสารที่ชัดเจน

จากหัวหน้างาน ก็ทำให้เขาไม่รู้จะพัฒนาตนเองอย่างไรในการทำงาน และพอทิศทางไม่ชัดเจน

ความเบื่อจากการคาดหวัง ก็จะเริ่มฉายภาพออกมาจนเขาเริ่มเบื่อไปเองครับ

 

5.ขาดการพัฒนาความรู้ความสามารถ

เรื่องนี้ก็เชื่อมโยงมาจากข้อที่ 4 นั่นคือ ขาดการพัฒนาตนเองในสิ่งที่ควรต้องพัฒนา

สิ่งสำคัญ ต้องสร้างความชัดเจนในเรื่องการพัฒนาให้กับลูกน้องอย่างชัดเจน อาจเป็นการแนะนำ

โดยมองภาพรวมศักยภาพของเขา และอาจปรึกษากับทางแผนกฝึกอบรม HR เพื่อสร้างแนวทางการพัฒนา

อย่างเป็นรูปธรรม โดยอาจเป็นการพัฒนาโดยให้อ่านหนังสือเพิ่มเติม การพัฒนาจากการฝึกอบรม เป็นต้น

 

6.ขาดการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

บางครั้งการทำงานก็ต้องมีการเชื่อมโยงประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ แต่บางครั้งแค่จะลุกไปห้องน้ำ

ก็ยากเต็มทน เพราะงานสุ่มกองเต็มโต๊ะ เคลียร์เท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที ก็อาจทำให้ไม่สามารถเกิด

ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เพราะต้องติดกับงานรูทีน และการทำงานรูทีนบ่อย ๆ ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย

จำเจ ซ้ำซาก เพราะคนบางประเภทชอบจะประสานงานติดต่อกับผู้อื่น ๆ แต่พอขาดตรงนี้ไป

ก็ทำให้แรงจูงใจในการทำงานน้อยลง สิ่งสำคัญของหัวหน้างานต้องเลือกคนให้เหมาะกับงาน

เพราะบางคนชอบทำงานอยู่กับโต๊ะ บางคนชอบพบปะผู้คน ก็จะทำให้เกิดความสมดุลในการทำงาน

 

7.ขาดความสม่ำเสมอ

นั่นคือ บางวันก็ยุ่งกับงานมากมาย แต่บางวันก็แทบไม่มีงานทำเลย ซึ่งผมเคยเป็นครับ

ตอนทำงานใหม่ ๆ ช่วงแรก ๆ งานน้อยมากแทบไม่มีอะไรทำ นั่งฆ่าเวลาไปวัน ๆ ก็เกิดความเบื่อหน่าย

เพราะไฟยังแรงอยู่ แต่พองานเข้ามาเยอะมากขึ้น ก็เริ่มทำไม่ทันจนเกิดความกดดัน ขาดความสมดุลทั้ง

งานและชีวิต ก็ทำให้เกิดความอ่อนล้า เบื่อหน่ายตามมา ดังนั้นต้องสร้างแรงจูงใจโดยการวางแผน

กับงานให้รัดกุม หัวหน้างานต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกน้องว่า แต่ละคนเป็นอย่างไร

ถ้าเห็นความผิดปกติ ต้องเรียกมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน อย่าปล่อยให้เกิดปัญหาตาม

มาจนหมดหนทางแก้ไขครับ

 

8.ขาดอนาคต

โดยเฉพาะคนเก่ง ที่ต้องการความท้าทายกับงานอยู่เสมอ หัวหน้างานต้องกล้าที่จะมอบหมายงาน

ที่สำคัญ ๆ งานที่เป็นโปรเจ็คให้กลุ่มคนเก่ง หรือ Talent ได้พัฒนาศักยภาพตนเองออกมาให้มากที่สุด

และเมื่อเขาทำสำเร็จต้องหมั่นชื่นชม เติมกำลังใจให้เขาพัฒนาความเก่งไปเรื่อย ๆ อีกทั้งก็มองหาตำแหน่ง

ที่เป็นความก้าวหน้าในอนาคตเพิ่มเติม ก็จะทำให้เขาอยากทำงานกับ หัวหน้างาน หรือองค์กรนั้น ๆ ต่อไปครับ

 

ทั้ง 8 ข้อนี้เป็นเพียงเบื้องต้นที่ผมสังเกตจาการทำงาน และตอนไปบรรยายให้องค์กรต่าง ๆ

ผมเชื่อว่า แรงจูงใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนดึงศักยภาพที่มีออกมา เพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมาย

ที่องค์กรตั้งไว้ คนที่เป็นผู้นำ หรือหัวหน้างานต้องรู้จักใส่ใจสิ่งเหล่านี้เยอะ ๆ ต้องรู้จักบริหารทั้งงาน

และที่สำคัญ คือ คน ให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพให้มากที่สุด อย่าปล่อยให้เขาทำงานไปวัน ๆ

จนวันหนึ่งเขาเดินมาหา และบอกกับคุณว่า ผม หรือ หนู ขอลาออก ครับ / ค่ะ

 

สนใจหลักสูตร Positive Thinking for life หลักสูตร 1 วัน

เพื่อการคิดเชิงบวกทั้งชีวิตและการทำงาน ติอต่อ คุณจิราวรรณ โทร 083-0445337

 

ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ

1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@ 

(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ

2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish

 

ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ

1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน

2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ

 

คิดบวก คิดถึง Dr.fish

เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ

วิทยากร นักคิด นักเขียน

 

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 713,538