10 พฤติกรรมที่ทำให้ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ

หากพูดถึง “ความสำเร็จ” ที่คนส่วนใหญ่โหยหาในยุคทุนนิยม แล้วนั้น

คงเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีและข้อมูล

ทำให้เกิดความฝันในการไล่ล่าหาความสำเร็จแทบจะเป็นจานด่วนกันเลยทีเดียวครับ

แต่ มีฝัน อย่างเดียวคงยากครับ เพราะมันต้องมีองค์กรประกอบอื่น ๆ อีกมากมายในการสร้างความสำเร็จ

เราลองมาดูกันครับว่า คนส่วนใหญ่ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เขาขาดอะไรเป็นองค์กรประกอบกันครับ

คำแนะนำของผม คือ อ่านไปทีละข้อ เริ่มจากข้อที่ 1 จนกระทั่งถึงข้อที่ 10  นะครับ

 

1.ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน

เพราะมีแต่ความฝัน ที่อยากรวย อยากประสบความสำเร็จ อยากมีชีวิตที่ดี๊ดี แต่พอถามว่าอยากรวยเท่าไหร่

กลับนิ่งเฉย เพราะยังไม่เคยคิดถึงตัวเลขในหัว อยากประสบความสำเร็จแต่พอให้เขียนว่าอยากประสบความสำเร็จเรื่อง

อะไร ก็ยังนึกไม่ออก เพราะไม่เคยชัดเจนไงครับ รู้อย่างเดียวฉันต้องรวย ต้องสำเร็จ

คำแนะนำของผม คือไปเขียนให้ชัดเจน เฉพาะเจาะจงครับว่า ถ้าอยากรวยตัวเลขที่คิดไว้เท่าไหร่

จากนั้นจงหาวิธีการเพื่อพาตัวเราไปสู่เป้าหมายครับ

 

2.ชอบทางง่าย ๆ

คนส่วนใหญ่ที่เขา รวย เขาประสบความสำเร็จ เป็นเพราะเขาผ่านความยากลำบาก ผ่านความผิดหวัง 

เสียใจมาเยอะครับ ไอ้ที่บอกกันในร้านหนังสือ ในงานสัมมนา ดูเหมือนง่ายนะ แต่ไม่ง่ายหรอกครับ 

เพราะเขาบอกแต่ความสำเร็จทำให้คนที่เสพ ได้แต่มโน ฝัน แต่พอเจอทางที่ลำบากกลับยอมแพ้ ท้อ 

สุดท้ายก็เลิกครับ แล้วอย่างนี้จะสำเร็จได้อย่างไร

คำแนะนำของผม คือ เวลาเจอปัญหา หรือ อุปสรรคอะไร ขอให้อึดให้พอ สู้ให้เยอะ 

เพราะก่อนจะสำเร็จมันมีสมการที่น่าสนใจ คือ ล้มเหลว แล้วถึงสำเร็จครับ เชื่อผมเถอะ !!  

หากคุณยังไม่ล้มเหลว ก็อย่าพึ่งไปคิดถึงความสำเร็จครับ

 

3.ทำทุก ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน

คนที่สำเร็จส่วนใหญ่ เขาเลือกที่จะทำ เลือกที่จะโฟกัส ให้ความสำคัญกับตัวเนื้องานที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย

มากกว่า สิ่งอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเขา แต่คนส่วนใหญ่ที่ล้มเหลว เพราะเห็นอะไรดี ก็ตามกระแส

โดยลืมคิดถึงเป้าหมายของตัวเอง

คำแนะนำของผม คือ จัดลำดับความสำคัญ โฟกัส ทำทีละเรื่อง หากนั่นคือ จุดเริ่มต้นของการสร้าง

จนกว่าเริ่มเห็นความสำเร็จ จึงค่อย ๆ ต่อยอดไปสู่สิ่งต่าง ๆ ครับ

 

4.ไม่มี To do List

ตอนผมทำงานประจำย้อนกลับไปประมาณปี 2552 มีที่ปรึกษาท่านหนึ่งสอนผมเรื่องการทำ To do list

แต่ผมต่อต้าน และไม่ให้ความสำคัญ เขียนไปอย่างนั้นเพื่อมีส่ง แต่ปัจจุบัน ผมใช้ To do list เป็นเครื่องมือ

ในการวางแผนงานแต่ละวันก่อนเข้านอน เพื่อจัดลำดับความสำคัญที่ต้องทำ และเป็นการวางแผนเพื่อฝึกสร้าง

ความเป็นระเบียบ วินัยต่อตนเอง ถึงวันนี้ผมต้องขอบคุณที่ปรึกษาท่านนั้น ที่แนะนำสิ่งดี ๆ ให้ผมใช้ในปัจจุบัน

คำแนะนำของผม คือ ก่อนนอน หรือ ตอนเช้า ควรเขียน To do list งานในแต่ละวันเพื่อเป็นการวางแผนตนเอง

และทบทวนความจำว่า มีสิ่งไหนบ้างที่ต้องให้ความสำคัญกับงานที่ต้องทำ จากนั้นจงลงมือทำงานที่อยู่ตรงหน้า

ของตนเองให้ดีที่สุด ครับ

 

5.ชอบคิดแต่เรื่องแย่ ๆ ที่บั่นทอนกำลังใจ

การคิดถึง อดีต ถามว่าคิดได้ไหมครับ คิดได้ครับ แต่ต้องเป็นอดีตที่คิดแล้วมีความสุข

เช่น หากวันนี้เจองานที่ยาก แล้วที่ผ่านมาเราผ่านมาได้อย่างไร คิดแบบนี้เราจะเกิดแรงบันดาลใจในการต่อสู้ครับ

กลับกัน หากคิดถึงอดีตที่หดหู่ใจ คิดแล้ว ก็ทำให้เกิดความทุกข์ หมดแรง หมดกำลังใจ แบบนี้ต้องรีบดีดทิ้งทันที

เพราะอดีต มันแก้ไขไม่ได้แล้วครับ

คำแนะนำของผม คือ ต้องรีบดีดสภาวะอารมณ์เชิงลบออกจากใจให้เร็วที่สุด วิธีการที่ผมใช้อยู่เสมอ คือ

การมองอดีตเป็นเพียงทางผ่าน และนำบทเรียนที่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้วนั้น นำมาใช้กับปัจจุบัน

เพื่อสร้างปัจจุบันให้ส่งผลถึงอนาคต ครับ อดีตที่ไม่ดี จงลืมมันไปซะ ยกเว้น อดีตที่ดี คิดได้เสมอครับ

 

6.คิดว่าฉันเก่ง

ในยุคที่ความรู้หาง่ายมาก ๆ เพราะคิดอะไรไม่ออก ก็พิมพ์ อากู๋ (Google) เข้าไปก็ได้ความรู้แล้ว

แต่ข้อพึงระวัง อย่าเชื่อจนขาดการคิด การไตร่ตรอง เพราะข้อมูลบางเรื่องก็อาจใช้ไม่ได้ในปัจจุบัน

คนที่ประสบความสำเร็จ เขารู้จักนำข้อมูลมา คิด วิเคราะห์ และแยกแยะ ก่อนนำไปใช้เสมอครับ

คำแนะนำของผม คือ อย่าคิดว่าความรู้มีแต่ในโรงเรียน หรือในมหาวิทยาลัยเสมอไป เพราะนั่นเป็นแค่ใบเบิกทาง

ให้เรา แต่เมื่อออกนอกรั้วแล้ว ต้องหมั่นเติมความรู้อยู่เสมอ เพราะหากเรานิ่ง ไม่ขวนขวายหาความรู้ใหม่ ๆ

มาพัฒนาตนเอง เราก็คงอยากจะประสบความสำเร็จ และโง่ ดักดาน แน่นอนครับ

 

7.ขาดความเชื่อมั่นต่อตนเอง

ความเชื่อนับว่ามีความสำคัญมาก ๆ ในการลงมือทำ เพราะหากเราไม่เชื่อว่าเราทำได้ ก็คงยากครับที่เราจะประสบ

ความสำเร็จ จริงไหมครับ !! แต่ก็ต้องระวังเรื่องความเชื่อมั่นที่สูงจนเกินไป เพราะนั่นถือเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ๆ

ในการก้าวไปข้างหน้า เพราะเราจะปิดหู ปิดตา ไม่ฟังเสียงรอบข้างที่อาจเป็นประโยชน์ต่อตัวเรานะครับ

คำแนะนำของผม คือ จงมีความเชื่อมั่นต่อตนเองในระดับที่พอดี ไม่มากเกินไป และน้อยจนเกินไป

และควรมีความเชื่อที่สำคัญ  3 ข้อ คือ

  • เชื่อว่าเป็นไปได้ทุกครั้งที่ทำ แต่ไม่ใช่โลกสวย ต้องอยู่กับความเป็นจริง
  • อย่ารอให้สมบูรณ์แบบแล้วค่อยทำ เพราะโลกนี้ไม่มีคำว่า สมบูรณ์แบบ นะครับ ทำ แล้ว ปรับตามความเหมาะสม
  • อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีตเป็นบรรทัดฐาน แต่จงเปิดใจเรียนรู้รอบตัวอยู่เสมอ

เชื่อผมเถอะ !! จงเชื่อมั่นต่อตนเองในระดับที่พอดี แล้วความสำเร็จอยู่ไม่ไกลครับ

 

8. เมื่อถึงทางเลือก ไม่กล้าตัดสินใจ

ทุก ๆ ความสำเร็จย่อมต้องเจออุปสรรคให้เขานั้นขบคิดในแต่ละวัน บางครั้งต้องเจอกับสถานการณ์ที่ต้องเลือก

ซึ่งหลายคนส่วนใหญ่ เมื่อเจอสถานการณ์นี้กลับไม่กล้าเลือก เพราะคำว่า กังวล และ ส่งผลไปถึงการกลัวความผิดพลาด

คำแนะนำของผม คือ จงหยุดมโนกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่จงตัดสินใจเลือกหนทางที่คิด วางแผน ไว้แล้ว

ในการลงมือทำ และทำมันให้ดีกับเส้นทางที่เราเลือกให้ดีที่สุดครับ ผลลัพธ์ ผมเองมอง 2 ส่วน คือ

หากทำได้ตามเป้าหมายที่คิดไว้ = จงอย่าหยุดในการก้าวเดิน พัฒนาสิ่งนั้นทำให้ดีขึ้นต่อไป  แต่
หากทำไม่ได้ตามเป้าหมาย หรือผิดพลาด = จงยอมรับกับผลลัพธ์ และค้นหาเส้นทางใหม่ ๆ 
อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่า เส้นทางนั้นมีหลุมเยอะจนยากจะก้าวข้ามครับ

หากเรามีทัศนคติที่ดี กล้ายอมรับความผิดพลาดที่เป็นเรื่องปกติ อยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ใจเราจะเป็นสุขครับ

 

9.ขาดการตั้งคำถามที่ดีกับตนเอง

เราเคยตั้งคำถามดี ๆ ให้กับชีวิตเราบ้างไหมครับ เช่น
คุณรู้สึกดีกับเป้าหมายตัวเองอย่างไร ?
คุณมองเห็นภาพความสำเร็จ เมื่อบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างไร ?
ถ้าหากบรรลุเป้าหมายแล้ว คุณจะได้รับสิ่งดี ๆ อะไรบ้าง
ถ้าต้องการไปให้ถึงเป้าหมาย มีแผนงานและวิธีการอย่างไรบ้าง ?
คุณจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ ?

คำถามดี ๆ เปลี่ยนชีวิตคนหลายคนมากมายนะครับ หลายคนมักชอบอยู่กับกระแสของสังคม

จนขาดการหันมาดูตนเอง

คำแนะนำของผม คือ ใช้เวลา 30 นาทีทบทวนตนเองบ้างครับ ในแต่ละสัปดาห์ ดังต่อไปนี้

  • สิ่งที่เราทำได้ดี  คืออะไรบ้าง
  • จะทำอย่างไรจากดีไปสู่ยอดเยี่ยม
  • สิ่งที่เราเผลอทำพลาดไปในงาน คืออะไร
  • ถ้าย้อนกลับไปใหม่ได้ จะทำต่างไปจากเดิมอย่างไร

 

10. ไม่รู้จักตนเอง

มาถึงข้อสุดท้ายของบทความนี้กันแล้วนะครับ ขอบคุณที่อ่านมาถึงข้อสุดท้ายกันครับ

ข้อนี้นับว่าสำคัญมาก ๆ ครับ เพราะเป็นการทบทวนถึง จุดแข็ง และ จุดอ่อนของตนเอง

ที่หลายคนมักชอบหลอกตัวเอง ว่าฉันมีแต่ข้อดี ส่วนข้อเสียหรอ 555 ไม่มีหรอก

ซึ่งผมย้ำเสมอว่า อย่ามโน แต่ต้องกล้าอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งสิ่งที่สำคัญ

การรู้ตัวเอง นับว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้เราไปได้ไกลมาก  ๆครับ ซึ่งหากเรายอมรับโดยเฉพาะข้อเสียของตนเองได้

จุดนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อทำให้ข้อเสียกลายเป็นข้อดีกันนะครับ

คำแนะนำของผม คือ ให้หากระดาษ A 4 ขึ้นมา 1 แผ่น แบ่งตารางเป็น 2 ด้าน

ด้านซ้ายเขียนหัวกระดาษว่า ข้อดีของตนเอง ส่วนด้านขวา เขียนหัวกระดาษว่า ข้อเสียของตนเองที่ต้องปรับปรุง

จากนั้นเปิดใจกว้าง ๆ ค่อย ๆ เขียนตามสิ่งที่เราเห็น หรืออาจมีคนอื่น ๆ พูดให้เราได้ยินครับ

และลองดูว่า ข้อดี หรือ ข้อเสีย เมื่อเขียนแล้ว ด้านไหนมีมากกว่ากัน

หากมีข้อดีมากว่า ก็อย่าได้ทะนงตนนะครับ ต้องพัฒนากันต่อไปทำให้ดีขึ้นทุก ๆ วัน

และหยิบข้อเสียที่มีบ้าง นำมาปรับปรุงเช่นกัน

แต่หากเขียนออกมาแล้ว ข้อเสียมากกว่าข้อดี ต้องรีบโฟกัสหยิบข้อเสียที่มีผลกระทบมากที่สุด

นำมาแก้ไขอย่างเร่งด่วนครับ เพราผมเชื่อว่า คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ หากเรานั้นเปิดใจ

พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครับ แล้วมันจะดีขึ้นครับ เชื่อผมเถอะ !!

 

หวังว่า เมื่ออ่านจบครบ 10 ข้อทุกท่านจะนำไปทบทวนตัวเองนะครับ 

คำแนะนำของผม คือ ขาดข้อไหนก็ปรับปรุงข้อนั้นครับ ชีวิตรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จแน่นอนครับ (หากทำ ทัน ที)

 

ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ

1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@ 
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ

2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish

 

ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ

1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน

2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ

 

คิดบวก คิดถึง Dr.fish

เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ

วิทยากร นักคิด นักเขียน

 

แบบฟอร์มติดต่อกลับ

Visitors: 791,624