5 วิธีกระตุ้นตัวเองเมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิต
บทความแรกของปี 2561 ขอกล่าวคำว่า สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามบทความมาตลอดปี 2560
ปีนี้ผมยังมีความตั้งใจแบ่งปันประสบการณ์ในเรื่องวิธีคิดเชิงบวกให้ผู้อ่านนำไปปรับใช้ทั้งชีวิตและการทำงาน
เพื่อสร้างความสุขและความสำเร็จตลอดปี 2561 และปีต่อ ๆ ไป
สำหรับบทความแรกในปีนี้ ขอเริ่มต้นด้วยแนวคิดบวก ๆ โดยเฉพาะอาการที่เรียกว่า เบื่อหน่าย ท้อถอยกับสิ่งที่ทำ
ไม่ว่าจะเป็นด้านงาน หรือ ด้านชีวิต เพื่อนำไปปรับใช้ในทุก ๆ วัน
อาการเบื่อหน่าย หรือ ท้อกับสิ่งที่ทำนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ทุก ๆ วันจากการทำงาน หรือ การใช้ชีวิต
ที่พบเจอแต่ความผิดหวัง เสียใจ จนทำให้ชีวิตจมกับความทุกข์
บางคนใช้เวลาไม่นานก็สามารถกระตุ้นตนเองกลับมาฮึดสู้ได้
แต่บางคนกลับจมกับความทุกข์จนใช้เวลานานจนเกินไป ซึ่งแบบนี้เสียเวลาเปล่าครับ
ความทุกข์ ไม่ใช่ว่ามีไม่ได้ แต่มีแล้วต้องรีบดีดทิ้งให้เร็วที่สุด เพราะถ้าความทุกข์เกาะติดที่ใจ
และความคิดของเรานานเกินไป ย่อมนำไปสู่การกระทำและพฤติกรรมในเชิงลบของเราได้ครับ
ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ความทุกข์หายไป เวลาที่เรารู้สึกเบื่อหน่าย หรือ ท้อในสิ่งที่ทำ
ผมมีเคล็ดลับมาฝาก เพื่อสามารถปลุกยักษ์ในตนเองให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้งนั่นคือ
1.ปล่อยวางในสิ่งที่ทำ
คำว่าปล่อยวาง อาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่เวลาทำจริงหลายคนอาจบอกว่ามันยากมาก ๆ
ซึ่งการปล่อยวาง ในทางพุทธศาสนา คือ การวางสิ่งที่เรียกว่าทุกข์นั้นทิ้งไป ซึ่งผมเชื่อว่าบางครั้งเราก็ไม่ควรแบกสิ่งต่าง ๆ
ไว้บนบ่าจนหนักอึ้งและทำให้ยากที่จะมีก้าวต่อไป ซึ่งคำว่า ปล่อยวางจะช่วยทำให้ใจเราเบาขึ้น เพราะเรื่องบางเรื่อง
ก็อยู่เหนือการควบคุม หรือเป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ จะเก็บมาคิดมากทำไม จริงไหมครับ วางลง หรือ ทิ้งไป
และปล่อยใจให้สบาย ตั้งสติให้ดี และแก้ไขกับปัจจัยที่เราควบคุมได้ นั่นคือ ตัวเรา ความคิดของเรา ย่อมดีกว่า
ค่อย ๆ ลองฝึกดูครับ ไม่ยากอย่างที่คิด
2.อ่านหนังสือดี ๆ
การอ่านย่อมนำมาซึ่งความรู้ และทำให้สมองเราพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แต่การอ่านก็ควรเลือกอ่านในสิ่งที่เป็นประโยชน์
มากกว่าสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ยิ่งเราอยู่ในยุคที่มีสื่อออนไลน์อยู่รอบตัว การหาความรู้จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แต่ก็ควรเลือกอ่านในสิ่งที่จรรโลงใจ อ่านแล้วได้มุมคิด อ่านแล้วทำให้ชีวิตเรามีทางเลือกในการแก้ไขปัญหา
กับสิ่งที่เจอในแต่ละวัน ยกตัวอย่างหนังสือที่ควรอ่าน เช่น หนังสือแนวจิตวิทยาการพัฒนาตนเอง หนังสือคำสอนต่าง ๆ
หนังสือแนวธรรมะเชิงประยุกต์ หรือ หนังสือ How To ในเรื่องต่าง ๆ ที่ทำให้เรามีมุมคิดดี ๆ มุมคิดในเชิงบวกมากกว่าเชิงลบ
ครับ ลองเริ่มต้นหาหนังสือมาอ่าน ตั้งเป้าหมายอ่านให้ได้วันละ 10 หน้า แล้วชีวิตเราจะดีขึ้นแน่นอน
3.ดูคลิปสร้างแรงบันดาลใจ
บางท่านอาจไม่ชอบอ่านหนังสือ ซึ่งก็ไม่เป็นไร ผมขอแนะนำอีกทางเลือกหนึ่งนั่นคือ การดู การฟัง ซึ่งโลกออนไลน์
ย่อมทำให้ชีวิตของเราสะดวกขึ้น แต่โลกออนไลน์ ก็คล้าย ๆ กับหนังสือ นั่นคือ มีทั้งประโยชน์ และไม่มีประโยชน์
จงเลือกสิ่งที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เดี๋ยวนี้มีคลิปดี ๆ ที่เป็นความรู้ คอร์สออนไลน์ หนังสือเสียงมากมาย เพื่อนำมาใช้ในการ
กระตุ้นความคิดของตนเอง ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเรา
แต่ผมอยากจะบอกว่า ทุกอย่างบนโลกนี้หากเราอยากเก่งขึ้น อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ต้องรู้จักลงทุน
และผมเชื่อว่าทุก ๆ การลงทุนไม่เคยเสียเปล่าย่อมนำสิ่งดี ๆ มาให้ เราได้แน่นอน เชื่อผมเถอะ ++
4.ค้นหาประโยชน์ในสิ่งที่ทำ
เมื่อใดที่รู้สึกเบื่อหน่าย หรือ ไม่อยากทำสิ่งต่าง ๆ ลองเปลี่ยนความคิดเชิงลบ ให้เป็นความคิดเชิงบวก
ด้วยการตั้งคำถามให้ตนเองในสิ่งที่ทำ มองถึงประโยชน์ในสิ่งที่ทำว่าเราทำแล้วเราได้อะไรกลับคืนมา
และนอกจากเราได้ในสิ่งดี ๆ แล้ว คนอื่นก็อาจจะได้รับสิ่งดี ๆ จากเราด้วยเช่นกัน เมื่อคิดได้แบบนี้เราจะมีกำลังใจ
ในการลงมือทำ เหมือนต้นฉบับนี้ ที่ผมมานั่งทำตอนประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งจริง ๆ ก็ควรนอนแล้ว แต่คิดถึงประโยชน์
และความตั้งใจที่อยากเขียนเลยไม่อยากปล่อยเวลาและไปทำในวันพรุ่งนี้ เพราะกลัวว่าไฟจะมอดและลืม
สู้ทำให้เสร็จเลยดีกว่า ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ๆ ถึงจะดี จริงไหมครับ
5.คิดถึงเป้าหมายในสิ่งที่ฝัน
ความฝันนับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจ และอยากทำสิ่งต่าง ๆ คนที่มีความฝันย่อมดีกว่า
คนที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ โดยไม่รู้ว่าชีวิตจะเดินไปในทิศทางแบบไหน เพราะความฝันไม่เคยทำร้ายใคร
ความฝันไม่มีวันหมดอายุ ไม่มีวันเกษียณ เราฝันได้ทุกวัน แต่เมื่อฝันแล้ว ต้องกล้ายอมรับความเป็นจริง
และกล้าลงมือทำสร้างฝันขึ้นมา อย่าปล่อยให้ความฝันเป็นแค่ความคิดเพียงอย่างเดียว แบบนี้อาจเรียกว่า
นั่งเพ้อฝันไปวัน ๆ เมื่อเรามีความฝันแล้ว จงเขียนความฝันนั้นให้ชัดเจน วางแผนให้ดีในสิ่งที่ทำ
มองให้รอบด้าน คิดทั้งด้านบวก สร้างกำลังใจให้กล้าลงมือทำ และคิดถึงด้านลบ หากสิ่งที่คิดไม่เป็นไปตามแผน
ก็ควรมีแผนสำรองเพื่อพร้อมปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมต่อไป ความฝันนั้นไม่ยาก แต่การลงมือทำยากเสมอ
แต่จะกลัวไปทำไม ทำแล้วผิดพลาด ก็ดีกว่านิ่งเฉย อย่างน้อยจะได้รู้ จะได้เห็น และเสริมสร้างประสบการณ์
ให้ก้าวต่อไปเราพบเจอแต่สิ่งที่ดี
ปีใหม่นี้ ลองคิด ลองฝัน ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน วางแผนให้รอบด้าน และลงมือทำ ทำ ทำ และทำ
อย่ารีรอ เพราะเวลาไม่เคยรอใคร เพราะหากเราไม่ทำ สุดท้ายเราจะมานั่งพร่ำบ่น คงไม่มีประโยชน์ครับ
เชื่อผมเถอะ ++
ท่านสามารถติดตาม Dr.fish ได้ทาง Line แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยทำตามขั้นตอน คือ
1.ค้นหา ID : Dr.fish กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "@dr.fish" ที่ LINE หรือ LINE@
(กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
2. คลิก Link http://line.me/ti/p/%40dr.fish
ประโยชน์ที่จะได้รับในการเป็นเพื่อนกับ dr.fish คือ
1.ได้รับข้อมูลการพัฒนาตนเองที่เป็นประโยชน์ วิธีคิดในเชิงบวก ทุกเช้า 7.30 น.ทุกวัน
2. สามารถปรึกษาการทำงาน วิธีคิดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเกรงใจครับ ยินดีมาก ๆ ครับ
คิดบวก คิดถึง Dr.fish
เขียนโดย อ.มงคล กรัตะนุตถะ
วิทยากร นักคิด นักเขียน